วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ประวัติกอล์ฟ


ประวัติศาสตร์กีฬากอล์ฟ

THE HISTORY OF GOLF
       กีฬากอล์ฟเกิดขึ้นมายาวนานมาก แต่จะหาหลักฐานว่ากอล์ฟเกิดขึ้นครั้งแรกที่ใด ใครเป็นผู้ริเริ่มการเล่น ยังหาหลักฐานที่แน่ชัดไม่ได้ จะมีหลักฐานเป็นรูปวาดหรืองานศิลปะที่มีการเล่นกีฬาคล้ายกอล์ฟอยู่มากมายหลายประเทศ แต่ก็ยังหาข้อสรุปหรือความชัดเจนไม่ได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของกีฬากอล์ฟหรือไม่

      อย่างย้อนหลังไปสองพันปี สมัยชาวโรมัน ก็มีหลักฐานเป็นภาพวาดและภาพปูนปั้น ที่ชาวโรมันเล่นเกมส์ที่ใช้ไม้ปลายโค้งงอตีลูกกลมๆ โดยเรียกเกมส์นี้ว่า “ Paganica”

      ที่ประเทศฮอลแลนด์ในช่วงศตวรรษที่13 ก็มีการเล่นกีฬาคล้ายกอล์ฟเรียกกันว่า “KOLF” ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินเรือ และลูกกอล์ฟขนนก “Feathery” ก็ผลิตในฮอลแลนด์และส่งไปขายยังสก็อตแลนด์เป็นจำนวนมากในช่วงศควรรษที่ 16 ก็เป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่ากีฬากอล์ฟเกิดที่ประเทศฮอลแลนด์ได้เช่นเดียวกัน

        หรือแม้แต่ประเทศในทวีปเอเชีย อย่างประเทศญี่ปุ่น ก็พบรูปวาดโบราณที่แสดงให้เห็นว่าหญิงโสเภณีชั้นสูงของญี่ปุ่น เล่นกีฬาชนิดหนึ่ง โดยใช้ไม้ปลายงอตีลูกกลมๆคล้ายกับการเล่นกอล์ฟเช่นกัน

        ล่าสุดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2549 มีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของกอล์ฟ ค้นพบโดยศาสตราจารย์ Ling Hongling จากมหาวิทยาลัยหลานโจ่ว ซึ่งชวนให้เชื่อได้ว่า มีกีฬาซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับกอล์ฟในปัจจุบันในประเทศจีน ตั้งแต่ห้าร้อยปีก่อนการกล่าวถึงกอล์ฟในสกอตแลนด์ บันทึกจากสมัยราชวงศ์ซ่ง มีการกล่าวถึงเกมส์ฉุยหวาน และมีภาพวาดด้วย เกมนี้มีการใช้ไม้สิบชนิด ซึ่งรวมถึงไม้ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับไดรเวอร์ หัวไม้สอง และหัวไม้สามด้วย ไม้ต่างๆมีการประดับด้วยหยกและทอง ทำให้เชื่อว่าเป็นกีฬาสำหรับผู้มีฐานะร่ำรวย ศาสตราจารย์หลิงเชื่อว่ากีฬากอล์ฟถูกนำเข้าสู่ยุโรป และต่อมาสกอต์แลนด์โดยนักเดินทางชาวมองโกลในช่วงปลายยุคกลาง ซึ่งก็เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจมาก
        แต่ที่สก็อตแลนด์ถูกกล่าวถึงว่าเป็นต้นกำเนิดของกีฬากอล์ฟ ก็เพราะคนสก็อตแลนด์นิยมเล่นกอล์ฟกันมากเล่นกันมานานและมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน เช่น

        ในปี ค.ศ.1457 โดยกษัตริย์เจมส์ที่ 2 ได้มีกฏหมายออกมาว่าห้ามมิให้ผู้ใดเล่นกีฬากอล์ฟอีกต่อไป อันเนื่องมาจากชาวสก็อตแลนด์เฝ้าแต่เล่นกอล์ฟกันจนไม่มีเวลาทำการซ้อมรบ ซึ่งจะเป็นอันตรายกับประเทศชาติ แต่ในที่สุดกฏหมายนี้ก็ต้องยกเลิกไป เพราะพวกขุนนางหรือแม้แต่พระมหากษัตริย์ก็ยังแอบเล่นกีฬากอล์ฟกันอยู่ ในสมัยของกษัตริย์เจมส์ที่ 4 หรือประมาณ 50 ปี หลังจากออกกฎหมายการห้ามเล่นกีฬากอล์ฟ
        หรือหลักฐานจากพระนาง Mary Queen of Scott ซึ่งเป็นพระราชธิดาของกษัตริย์เจมส์ที่ 5 ทรงเล่นกอล์ฟและให้นักเรียนนายร้อย (Cadet) เป็นผู้แบกถุงกอล์ฟให้ ซึ่งต่อมาอาจเป็นคำเริ่มต้นที่ใช้เรียกคนแบกถุงกอล์ฟว่า แค๊ดดี้ (Caddie) ก็เป็นได้ในปัจจุบัน
        สนามกอล์ฟในเมือง Leith ถือเป็นสนามกอล์ฟแห่งแรกของสก๊อตแลนด์ ที่มีรูปแบบการเล่นเป็นมาตรฐาน เช่นในปัจจุบัน โดยมีอยู่ด้วยกัน 5 หลุม และยังมีสนามกอล์ฟเกิดขึ้นมากมายในกลางศตวรรษที่ 16 เช่น St.Andrews, Perth, Montrose, Dornoch, Banff, North Inch และ Aberdeen
สนามกอล์ฟ The Royal Blackheath Golf Club คือ สนามกอล์ฟแห่งแรกของประเทศอังกฤษ
       กีฬากอล์ฟในสก๊อตแลนด์ เริ่มมีการอิ่มตัว และมีเหตุการณ์ในทางการเมือง ทำให้กีฬากอล์ฟถูกลดความสนใจลงไป และหยุดการพัฒนาลงไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19
      แต่หลังจากการเมืองสงบลง กีฬากอล์ฟก็กลับมาเป็นที่นิยมดังเดิม ในปีคศ. 1850 กีฬากอล์ฟเริ่มแพร่หลาย เข้าสู่เมืองอาณานิคมอังกฤษ และเริ่มเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา

      อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กีฬากอล์ฟได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ก็เพราะอุปกรณ์การเล่นมีราคาถูกลง มีการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมทั้งไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟ อีกทั้งการคมนาคมก็สะดวกมากยิ่งขึ้นทั้งทางรถไฟและทางเรือ
          จากนั้นเป็นต้นมา กีฬากอล์ฟก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทำให้มีจำนวนนักกอล์ฟนับร้อยล้านคนทั่วโลก สนามกอล์ฟก็มีการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของนักกอล์ฟ และอาชีพนักกอล์ฟอาชีพซึ่งสามารถทำรายได้และชื่อเสียงให้กับตัวของนักกอล์ฟเอง จนเป็นเป้าหมายให้กับนักกอล์ฟรุ่นใหม่ๆจำนวนมาก ที่พยายามขึ้นไปยืนอยู่ ณ จุดนั้นให้ได้ อีกทั้งอุตสาหกรรมของกีฬากอล์ฟก็เติบโตอย่างรวดเร็ว มีเม็ดเงินมหาศาลที่หมุนเวียนอยู่ในโลกของกีฬากอล์ฟ อีกทั้งกีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่มีความท้าทายสูง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ จนอาจจะกล่าวได้ว่ากีฬากอล์ฟเป็น

“ GAME OF THE WORLD”
ลำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์กีฬากอล์ฟ
ค.ศ. 1457 กษัตริย์เจมส์ที่ 2 แห่งสก็อตแลนด์ ออกกฏหมายห้ามมิให้มีการเล่นกอล์ฟ เพราะเหล่าขุนนางและทหารไม่สนใจในการฝึกซ้อมการรบฝึกทหารมัวแต่ไปเล่นกอล์ฟกัน

ค.ศ. 1491 กษัตริย์เจมส์ที่ 4 ก็ยังทรงตอกย้ำถึงกฏหมายการเล่นกอล์ฟ แต่ภายหลังก็ต้องมีการยกเลิกกฏหมายนี้ เพราะพระองค์เองก็ยังทรงแอบเล่นกีฬากอล์ฟเสียเองจนเป็นที่กล่าวขานกันของประชาชน

ค.ศ. 1735 มีการก่อตั้งสโมสร(club) เป็นครั้งแรกชื่อ The Royal Burgess Society Of Edinburgh
ค.ศ. 1744 สโมสร The Honoureble Company Of Edinburgh Golfers จัดให้มีการแข่งขันกอล์ฟขึ้น โดยผู้ชนะจะได้ไม้กอล์ฟที่ทำจากเงินซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่เป็นทางการครั้งแรกในโลก
ค.ศ. 1754 สโมสร The Royal And Ancient Golf Club ได้สร้างกฏกติกาของการเล่นกอล์ฟขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเริ่มต้นมีข้อกำหนดไว้ 13 ข้อ ซึ่งยังยึดถือเป็นแบบอย่างของกติกากอล์ฟในปัจจุบัน
ค.ศ. 1764 สนามเซ็นท์แอนดรูว์ส ถูกปรับปรุงและลดจาก 22 หลุม เป็น 18 หลุม และถือเป็นแบบอย่างของสนามกอล์ฟในปัจจุบันที่มีทั้งหมด 18 หลุม
ค.ศ. 1829 สนามรอยัล กัลกัตต้า กอล์ฟคลับในประเทศอินเดีย เป็นสโมสรที่อยู่นอกเกาะอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดและยังเปิดดำเนินการอยู่ (Royal Calcutta Golf Club)
ค.ศ. 1860 เริ่มมีการแข่งขัน บริทิชโอเพ่น เป็นครั้งแรกโดยมีนักกอล์ฟอาชีพร่วมแข่งขัน 8 คน แชมป์ตกเป็นของ วิลลี่ พาร์ค
ค.ศ. 1881 Robert Lockhart ชาวสก็อตแลนด์อพยพเข้าไปอยู่ในอเมริกา โดยซื้อไม้กอล์ฟไป 6 ชิ้น และลูกกอล์ฟ 2 โหล จาก Tom Moris ในสนาม St. Andrews และได้ลองตีไม้กอล์ฟครั้งแรกใกล้กับ Hudson River เขาจึงได้ชื่อว่าเป็นคนแรกที่ได้ตีกอล์ฟบนแผ่นดินอเมริกา ซึ่งอันที่จริงแล้วกีฬากอล์ฟได้เข้าสู่แผ่นดินอเมริกาก่อนหน้านี้ประมาณ 100 ปี มาแล้วแต่ไม่ได้มีการจดเป็นบันทึกหลักฐานที่แน่นอน
ค.ศ. 1888 สโมสร St. Andrews Golf Club ถูกตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกและถือเป็นสโมสรกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา จัดขึ้นโดย Johe Reid ซึ่งเป็นเพื่อนของ Robert Lockhart เพื่อเป็นการระลึกถึงสนาม St. Andrews ในสก็อตแลนด์
ค.ศ. 1894 USGA ( The United States Golf Association) ถูกสถาปนาขึ้น โดยการรวมตัวกันของสโมสรกอล์ฟ 5 แห่ง ได้แก่ Newport Golf Club , Shinnecock Hill Golf Club , The Country Club , St.Andrew’s Golf Club (Yonkers,N.Y.) และ Chicago Golf Club โดย USGA เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดกติกากอล์ฟที่ใช้ในหมู่สมาชิก , การคิดคำนวนแต้มต่อของนักกอล์ฟ และ USGA เป็นเจ้าของรายการเมเจอร์ 1 รายการ นั่นก็คือ รายการ U.S. OPEN
และทั้งหมดนี้ก็คือประวัติศาสตร์กีฬากอล์ฟ ที่มีการจดบันทึกข้อมูลจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1900 หลังจากนั้นกีฬากอล์ฟก็มีวิวัฒนาการณ์และเหตุการณ์อีกมากมาย ซึ่งจะนำมานำเสนอในโอกาสหน้าต่อไป

ขอบคุณข้อมูลดีๆ : http://www.golfprojack.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538847686&Ntype=2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น